วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

ความรู้เบื้องต้นในการวาดเส้น

บทที่ 1

ความรู้เบื้องต้นในการวาดเส้น


เส้น เป็นคำที่มีความหมายโดยปกติของการรับรู้อยู่แล้วว่า เป็น วัตถุ สิ่งของ ที่มีลักษณะ ยาว หรือเป็นสาย และมีความชัดเจนขึ้นอีกถ้าไปผสมกับคำใดเข้า เช่น เส้นหมี่ เส้นทางเดินรถ เส้นไหม เส้นเลือด เส้นเชือก ฯลฯ แต่ถ้าในทางการขีดเขียนหรือวาด จะถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมาก ที่จะทำให้เกิดภาพต่างๆขึ้น เพื่อการสร้างสรรค์ ออกแบบผลงานต่างๆ ซึ่งเกิดจากการใช้เครื่องมือเข้าช่วย ขีด ลาก วาด ได้แก่ ดินสอ ปากกา พู่กัน ฯลฯ โดยมพื้นที่รองรับส่วนใหญ่จะเป็นกระดาษ ขนาดของเส้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของอุปกรณ์นั้นๆ

การเกิดของเส้นถ้ามองอีกมุมหนึ่งในองค์ประกอบของการออกแบบ อาจกล่าวได้อีกแง่หนึ่งว่า เส้นคือ จุดที่เคลื่อนที่ และต่อเนื่องบนที่ระนาบหรือบนแผ่นกระดาษ ถ้าเส้นปรากฏเป็นตัวอักษรก็จะเป็นภาษาเขียนของมนุษย์ที่สื่อสารกัน แต่ถ้าเส้นถูกวาดอย่างมีทิศทาง มีความหมายเป็นรูปร่าง ก็จะเกิดเป็นภาพต่างๆ เพื่อสื่อความหมายหรือเพื่อการสร้างสรรค์งาน ก็จะเป็นขบวนการสร้างภาพที่อาศัยทักษะฝีมือ มีความสัมพันธ์กับการคิดที่ต้องใช้ สติปัญญาจะเห็นได้ว่า การวาดเส้น เป็นการถ่ายทอดความคิดออกเป็นรูปภาพที่ทำได้ สะดวก และ รวดเร็ว ส่วนจะได้ความหมาย หรือ เหมือน ถูกต้องมากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับทักษะฝีมือของแต่ละคนไป
วาดเส้น เป็นคำผสมซึ่งพอจะแยกความหมายได้เป็น 2 คำ คือ
   1. วาด เป็นการกระทำให้เกิดภาพ โดยใช้มือจับอุปกรณ์ ขีด เขียน ถู ไถ ฯลฯ มากกว่าการเขียนเป็นตัวอักษร หรือข้อความ
   2. เส้น เป็นวัตถุ สิ่งของ หรือ รอย ที่มีลักษณะยาว ถ้าในงานออกแบบ เส้น จะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างผลงาน
ธรรมชาติของเส้น
  -มีขนาดต่างๆกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุที่นำมาใช้ในการลากหรือวาด
  -ตัวมันเองมีเพียงมิติเดียว แต่เมือวาดอย่างมีจุดประสงค์จะทำให้ได้ผลงาน หลายมิติ
  -มีลักษณะของความยาวมากกว่าความหนา

ในที่นี้ขอให้ความหมายของการ วาดเส้น ว่าการที่เราใช้ อุปกรณ์ต่างๆ ขีด เขียน เป็นภาพ ที่มีความหมายตามที่สมอง หรือ สติปัญญาสั่ง การ โดยมีตาเป็นสื่อรับรู้ของการเกิดภาพนั้นๆ
ผลงานของการวาดเส้น จะให้ความรู้สึกต่างๆมากมาย ตั้งแต่พื้นฐานง่ายๆจนถึงเนื้อหาที่ซับซ้อนจะเห็นได้ว่า การวาดเส้น เป็นพื้นฐานหลักในการถ่ายทอด ความคิด ออกเป็น รูปร่าง รูปภาพ ไม่เพียงแต่ผู้ที่เรียนทางด้านศิลปะ ออกแบบ ผู้สนใจทั่วไป แม้นแต่มนุษย์ยุดโบราณก็ยัง ขีดเขียนเป็นภาพสะท้อนเรื่องราวต่างๆ บนเพดาน หรือผนังถ้ำ เป็นการแสดงให้เห็นถึง สติปัญญา ความสามารถของทักษะฝีมือ และวิธีการถ่ายทอดที่เป็นคุณสมบัติส่วนหนึ่งของมนุษย์ บางคนอาจวาดเส้นถ่ายทอดได้ดี บางคนอาจมีปัญหา แต่การฝึกฝนอย่างมีหลักการก็จะเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้เกิดทักษะฝีมือ


ประวัติการวาดเส้น
มนุษย์ได้สร้างสิ่งต่างๆมากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และก็สร้างกันต่อไปในอนาคตอย่างไม่หยุดนิ่ง ในยุดแรกของมนุษย์สิ่งที่สร้างก็เพื่อการดำรงชีพ หาอาหาร ต่อสู้กับสัตว์ ภัยธรรมชาติ  และต่อสู้กับระหว่างเผ่าพันธุ์ ทุกอย่างต่อเนื่องปรับเปลี่ยนและมีวิวัฒนาการ บางอย่างก็ทิ้งร่องรอยของผลงานเอาไว้ ให้ศึกษาเป็นข้อมูลเรื่องราวต่างๆ การจะหาคำตอบถึงสาเหตุ และข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมด ก็คงจะหาคำตอบที่ชัดเจนได้ยาก แต่ก็มีข้อเท็จจริงบางส่วนตามที่นักโบราณคดีได้ศึกษาค้นคว้าจากหลักฐานเอาไว้ ซึ้งเป็นวิชาการแขนงเดียวที่ให้คำตอบที่ใกล้เคียงมากที่สุดในทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเรียงลำดับได้ดังนี้
1. ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (15,000 B.C.) ผลงานของมนุษย์ยุคนี้ที่ปรากฏให้เห็น นอกจากจะให้ข้อมูลที่สำคัญทางโบราณคดียังสะท้อนให้เห็นถึง คุณค่าทางทักษะฝีมือมานานนับหมื่นปี
นักโบราณคดีได้สันนิษฐานไว้ว่า ผลงานของมนุษย์ที่เกี่ยวกับการวาดหรือศิลปะ เกิดในบริเวณทวีปริกา แล้วโยกย้ายที่ทำมาหากินไปตามที่ต่างๆ บางกลุ่มขึ้นทางเหนือผ่านทะเลทรายซาฮาร่า ข้ามทะเลเมติเตอร์เรเนียนไปถึงยุโรป เพราะพบเครื่องมือเครื่องใช้ที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ดีจะเป็นที่ยอมรับกันว่า มนุษย์พวกแรกที่ถือว่ามีฝีมือทางช่างศิลป์ คือ พวก โคร-มันยอง (Cro-magnon) มนุษย์พวกนี้รู้จักหลบอากาศหนาวเย็นเข้าอาศัยอยู่ในถ้ำ รู้จักเขียนภาพต่างๆโดยเฉพาะจากประสบการณ์ที่รับรู้มา รู้จักสร้างสรรค์ สร้างและประดิษฐ์สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ใช้สอย และ ล่าสัตว์
ภาพที่ 1.1 ภาพวาดบนผนังในถ้ำ Lascaux ในประเทศฝรั่งเศส
ภาพวาดผนังถ้ำ (Cave painting) ตั้งแต่ยุคหินเก่า สะท้อนสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ภาพวาดผนังถ้ำที่พบมากได้แก่บริเวณ ทางตอนเหนือของสเปญ ถ้ำอัลตามิรา (Altamira) และทางตอนใต้ของ ประเทศฝรั่งเศส ถ้ำลาสโค ( Lascaux )

                                                                       ภาพที่ 1.2 ตำแหน่งถ้ำ Lascaux ในประเทศฝรั่งเศส และ Altamiraประเทศสเปญ
1. ผู้ที่วาดหรือผู้สร้าง สันนิฐานว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม หรือ พ่อมดหมอผี ซึ่งเป็นผู้มี   ความสามารถ  ในการถ่ายทอดความคิดประสบการณ์ สร้างความเชื่อ และ สร้างภาพได้สอดคล้อง ลงบนผนังถ้ำได้
2. การสร้างภาพจะวาดเส้นภาพนอกก่อนแล้วใช้สีที่เป็นผงระบายภายหลัง โดยใช้ไขสัตว์  เลือด หรือน้ำผึ้ง ทาบริเวณที่จะระบายก่อน แล้วใช้ผงสีพ่นลงไป บางที่ก็แปรงซึ่งทำจากเปลือกไม้ทุบแตกเป็นเส้น หรือขนนกช่วยทา
3. สีที่ใช้คงหาจากทรัพยากรใกล้เคียง ได้แก่ ดินสีเหลือง สีแดง สีดำ สีดินเทศ
4. รูปที่เขียนบางรูปจะเซาะขอบเป็นร่องก่อน บางรูปก็อาศัยลักษณะสูงต่ำของผนังเป็นส่วนประกอบเข้ากับลักษณะของภาพ เช่น ผนังที่นูนอาจเป็นส่วนท้องของสัตว์
5. ภาพวาดของสัตว์จะแสดงรูปด้านข้างเป็นส่วนมาก มีทั้งตัวเดียว และ เป็นฝูง จะมีภาพของคนปนอยู่น้อย
6. ภาพวาดของสัตว์ จะแสดงขนาด และชนิดของสัตว์ตามความคิดคำนึงไม่ตรงกับความเป็นจริงนัก และไม่แยกประเภทของสัตว์บก หรือ สัตว์น้ำ
7. เรื่องราวของภาพจะเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ในการดำรงชีวิต การล่าสัตว์ เช่นสัตว์ได้รับบาดเจ็บ ถูกฆ่า ถูกลูกธนู ถ้าเป็นความสมบูรณ์ก็มักแสดงอวัยวะเพศเด่นชัด หรือถ้าต้องการแสดงความเชื่อของความสำนึกบาปก็จะเขียนภาพสัตว์ให้สวยงามกว่าตัวจริง โดยหวังว่าจะได้รับการอภัย เป็นต้น

2. ผลงานวาดเส้นของอียิปต์ (4000-2280 B.C.) เป็นอีกยุกต์หนึ่ง ที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เด่นชัด และ มีประวัติความเชื่อแนวทางในการสร้างสรรค์งาน ซึ่งเป็นชนชาติที่สร้างอารยะธรรมของลุ่มแม่น้ำไนล์ อยู่ทางตอนใต้ของทะเลเมติเตอร์เรเนียน อียิปต์มีความเจริญรุ่งเรืองมาก แล้วค่อยๆเสื่อมลงต่อมาก็เสียเอกราชให้กับเปอร์เซีย ประมาณ 525 ปี ก่อน ค.ศ.
ชาวอียิปต์ มีความเชื่อซึ่งมีอิทธิพลในการสร้างผลงาน คือ
1.       เชื่อว่าชีวิตในโลกหน้ามีจริง และมีความสำคัญ
2.       เชื่อว่ามนุษย์ประกอบด้วย ร่างกายและวิญญาณ
3.       เชื่อว่าฟาโรห์คือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และเชื่อในพระเจ้าหลายองค์ที่ให้ คุณและโทษ
4.   เชื่อว่าการแสดงออกตามมุมมองที่เหมาะสม ให้เข้าใจง่ายเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างงานศิลปะ
5.       เชื่อว่า หลักการ กฎเกณฑ์ ทางศิลปะเป็นสิ่งดี ต้องเคารพ
จากความเชื่อดังกล่าว จึงมีผลทำให้ชาวอียิปต์ สร้างผลงานที่มีความคงทนอยู่จนถึงปจัจุบันนี้ เช่น สร้างปิรามิด เป็นผลงานสถาปัตยกรรมปิดตาย ที่มีความแข็งแรง ทนทาน เพื่อรักษาร่างศพของฟาโรห์ไว้ เพื่อจะกลับมามีชีวิตใหม่อีกตามความเชื่อ โดยมีภาพเขียนตามผนังห้องเก็บศพ ห้องประวัติฯ ห้องสมบัติ เป็นภาพช่วยเตือนความทรงจำเมื่อฟื้นคืนร่าง
                                              ภาพที่ 1.3 ภาพวาดเส้นเรื่องราวการออกประพาสทางน้ำของฟาโรห์ (Thebes.XVIII Dynasty )
ผลงานวาดเส้นอียิปต์ จะมีเอกลักษณ์อยู่หลายอย่าง ดังนี้
1.       มีการตัดเส้นรอบนอก วาดรายระเอียดชัดเจน และใช้สีเรียบ
2.       การวาดภาพคนมักจะสลับด้านของหุ่น เพื่อการถ่ายทอดให้ชัดเจน
3.       ภาพของคนจะมีลักษณ์ของรูปร่าง ส่วนหัวและคอเป็นรูปด้านข้าง ตาด้านหน้า บริเวณอกเป็นรูปด้านหน้า ท่อนขาจนถึงเท้าเป็นรูปด้านข้าง
ภาพที่ 1.4 ภาพวาดเส้นจากผนังเกี่ยวกับการถวายสิ่งของ ของ Hapi (Thebes.XVIII Dynasty )

ภาพที่ 1.5 ภาพวาดเส้นจากผนังของ Sennofer (Thebes.XVIII Dynasty )
ภาพที่ 1.6 ภาพวาดเส้นเรื่องราวการเทพเจ้า Nekhbet (Thebes.XVIII Dynasty )
ภาพที่ 1.7 ภาพวาดเส้นเรื่องราวเทพ Isis (Thebes.XIX Dynasty )

3. การวาดเส้นในสมัย กรีก และโรมัน   ถือเป็นมารดาของอารยะธรรมตะวันตกเกือบทุกแขนง  แนวปรัชญาของสำนักต่างๆ มีความเจริญมาก  ทำให้เกิดแนวทาง ทางความคิดมาก และสำนักคิดเหล่านั้นพิจารณาปัญหาเหตุผลต่างกัน  สำหรับทางด้านศิลปะและการวาดเส้นนั้น  ศิลปินกรีกถือกันว่า  เป็นผลของความพยายามของมนุษย์ ที่ถ่ายทอดเลียนแบบธรรมชาติ  (Art is the imitation of nature.)  โดยมุ่งที่จะแสดงให้เห็นในความเชื่อเด่นๆ ของสังคมสองประการ  คือ  ความชัดเจน และความบริสุทธิ์  (Clarity and purity

   รูปคนหรือการถ่ายทอดคน  ถือเป็นรูปแบบอันสำคัญของการวาดเส้น  โดยศิลปินกรีกพยายามที่จะใช้ความสมบรูณ์ และ ความงามของคนเป็นแบบ  ถ่ายทอดเทพเจ้าตามที่คนมีความเชื่อ  เทพเจ้าอะพอลโล ก็ดี  หรือ เทพเจ้าวีนัสก็ดี  ต่างก็ได้แบบอย่างจากเรือนร่างอันสมบรูณ์ของมนุษย์ผู้เต็มใจเป็นหุ่นให้  และแนวคิดที่ยอมเป็นหุ่นนี้ให้อิทธิพลสืบต่อมาจนถึงสมัยฟื้นฟูและในสมัยหลังๆ บ้างเหมือนกัน
   ศิลปินกรีก มีความชำนาญในการถ่ายทอดบนผนังโค้งของไห  ด้วยการออกแบบผสมกับรูปทรงเรขาคณิตเป็นแบบต่างๆ งดงาม  บนพื้นที่จำกัด  และรู้จักใช้น้ำยาเคลือบตกแต่งด้วยสีอิฐ และสีดำ  โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับขนบประเพณีและนักรบ  ศิลปินนอกจากจะแสดงความชัดเจนแล้ว  ยังแฝงจินตนาการของตนเองไว้ในภาพเขียนอีกด้วย  และ ในสมัยหลังๆ จินตนาการมีส่วนให้อิทธิพลต่อการวาดเขียนมาก  จนกลายเป็นการออกแบบตกแต่ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น